วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เคล็ดลับพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษ


Learing  log  5  ( นอกห้องเรียน )

                ในปัจจุบันอิทธิพลของโลกาภิวัตน์ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง  และยังเพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ นั้น  การเรียนรู้ภาษาของประเทศอื่นย่อมได้เปรียบในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพราะคงไม่มีใครจะติดต่อสื่อสารและรู้เรื่องได้ดีเท่ากับการพูดภาษาเดียวกัน  ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าขณะที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากล  หลาย ๆ ประเทศให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศและหลาย ๆ ประเทศประกาศให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการอีกภาษาหนึ่ง  นอกจากภาษาของตัวเอง  ประเทศที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษนั้น  ผู้คนในประเทศนั้น ๆ จะเรียนรู้ภาให้ซาบซึ้ง  สามารถใช้ภาษาเข้าสู่สังคมและวัฒนธรรม  สามารถใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับสังคม  วัฒนธรรมตามสถานการณ์ได้ทุกทักษะของภาษา  และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ดีจะมีโอกาสในการจ้างงาน  และได้รับการสนับสุนนส่งเสริมในหน้าที่การง่ายยิ่ง ๆ ขึ้นไปมากกว่าผู้ที่ไม่มีทักษะทางภาษาเลย
เนื่องจากภาษาอังกฤษมีการใช้กันทั่วโลกมากกว่าภาษาอื่น ๆ เราในฐานะเด็กไทยยุคนี้  ซึ่งจะต้องแข่งขันกันอีกมากมาย  ทั้งด้านการเรียน  หน้าที่การงาน  และอื่น ๆ อีกมากมาย  เราต้องอ่านภาษาอังกฤษให้ได้  เพื่อตอบสนองต่อสิ่งเร้ารอบตัวเรา  ฉะนั้นหากเราไม่เก่งเราต้องขยันในการอ่าน  และฝึกใช้ภาษาอังกฤษบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้เราถูกเอารัดเอาเปรียบ  เคล็ดลับวิธีพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษให้คล่องมีหลายรูปแบบ  เช่น  ประการแรก  คือ 
1.อ่านหลายรูป  ถ้าอยากเป็นนักอ่านภาษาอังกฤษที่เก่งต้องปรับทัศนคติในเรื่องสื่อก่อน  ต้องเปิดใจอ่านสื่อให้ได้ทุกประเภท  สื่อภาษาอังกฤษที่มีอยู่ในประเทศไทยมีเยอะทีเดียว  ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ  นิตยาสาร / วารสารภาษาอังกฤษ  โบชัวร์ภาษาอังกฤษ  หรือเว็บไซต์-บล็อก-ข่าวจากเว็บนอก  ทุกสื่อคือแหล่งเรียนรู้ที่ดีเลย  นอกจากสื่อแล้ว  เรื่องที่จะอ่านก็เลือกไม่ได้  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแนวไหนก็ให้ความรู้เราทั้งนั้น  ไม่ว่าจะนิยาย  บทความ  คอลัมน์  ข่าว  หรือแม้กระทั่งพวกประกาศข่าวต่าง ๆ งานเขียนแต่ละประเภทจะมีคลังศัพท์ที่ใช้ต่างกัน  ก็เหมือนภาษาเลย  ภาษาข่าวและนิยายก็ใช้อรรถรสอีกแบบ  ดังนั้นพยายามฝึกตัวเองให้เข้าหาสื่อ  ในช่วงแรก ๆ ก็อ่านนิด ๆ แล้ว ค่อย ๆ ฝึกตัวเอง  อ่านมาก ๆ ฝึกความเร็วในการอ่าน  ทำให้เราชินกับภาษาอังกฤษ  ประการที่  2  คือ  เมื่อเราสงสัยในคำตอบ  ช่วงแรก ๆ ที่ฝึกอ่านมีปัญหามากมาย  เช่น  เราไม่เคยเห็นประโยคแบบนี้  ไม่เคยเห็นและไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร  และไวยากรณ์ต่าง ๆ ซึ่งทำให้เราไม่เข้าใจและแปลไม่ถูก  ความสงสัยทำให้เราโน๊ตออกมาและหลังจากนั้นก็ค่อยไปหาคำตอบโดยการเสิร์ชจากอินเทอร์เน็ตหรือถามเพื่อน ๆ ครู  ความสงสัยเป็นประตูไปสู่การเรียนรู้  และที่สำคัญเมื่อเราหาคำตอบได้แล้วเราสามารถจำมันได้นาน  ประการต่อมา  คือ  3.  ขยันเปิก  Dictionary  สำหรับมือใหม่ควรจะขยัน Dictionary เพื่อฝึกนิสัยการค้นคว้าเบื้องต้น  เพราะคำศัพท์คำหนึ่งมีได้หลายความหมาย  เมื่อเราได้เห็นด้วยตาตัวเองว่าคำนั้นมีความหมายอย่างอื่นด้วย  และถ้าเราจำได้  เมื่อเราเจอคำนี้อีก  เราจะสามารถประยุกต์ความหมายมาใช้ได้  ฝึก Dictionary จนรู้สึกว่าเราคล่องเรื่องคำศัพท์  เมื่อเราเปิด  Dictionary แล้วมันจะสอดคล้องกับข้อต่อไปเลย  คือ  4.  สร้างคลังคำศัพท์ของตัวเอง  คือ  จัดระบบคำศัพท์  เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน  เรียกว่าคลังคำศัพท์ส่วนตัว  วิธีการคือ  เราฝึกหาคำศัพท์จากการเปิด  Dictionary  แล้วจดคำศัพท์ไว้ในสมุดคำละหน้าไปเลย  เพื่อหาคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องด้วย  คือ  หาคำศัพท์ที่มีความหมายเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน  ไม่รู้จักคำว่า  clever  เมื่อหาความหมายแล้วแปลว่า  “ฉลาด”  ก็หาคนที่มีความหมายเหมือน  เช่น  bright,  intelligent,  brainy หาคำศัพท์ที่มีความหมายตรงข้าม  “โง่”  เช่น  silly,  stupid  เช่น
 









                ประการที่  5  ฝึกอ่านทุกวัน  อ่านวันละนิด  ประมาณ  30  นาที  ช่วงเวลาว่าง ๆ หรืออ่านจนกว่าจะเบื่อ  หากเราทำติดต่อกันประมาณ  3  เดือน  จากอ่านติด ๆ ขัด ๆ แปลไม่ได้  อ่านไม่ออก  เราจะอ่านคล่องขึ้นและแปลได้  และประการสุดท้าย  แ6.  ค่อย ๆ ไต่ระดับความยากฝึกนิสัยไปในตัว  การที่เราจะพัฒนาในแต่ละเรื่องเราต้องพัฒนาความยากขึ้นไปเรื่อย ๆ ตอนแรกเราอ่านพวกเบสิค ๆ ที่คำศัพท์ไม่ยาก  อ่านจนรู้สึกว่าผ่านมันได้แล้วก็ลองเรื่องที่ยากขึ้นมาและยากขึ้นเรื่อย ๆ ขั้นตอนทั้งหมดนี้มันสามารถวัดใจตัวเราได้มากเลย  อย่างน้อยก็วัดความพยายามว่ามีความอดทนพอหรือไม่
                ถึงแม้ภาษาไทยจะเป็นภาษาประจำชาติก็ตาม  เราก็ไม่ควรเอามาเป็นข้ออ้างเพื่อไม่ให้เราได้เรียนรู้หรือปิดกันภาษาอื่น  โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่เป็นภาษาหลักของโลก  ไม่วาจะไปเที่ยวประเทศไหน  แค่เรารู้ภาษาอังกฤษก็สามารถเอาตัวรอดได้สบาย  ในเรื่องการเรียนก็เช่นกัน  ถ้ารู้ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษนิด ๆ หน่อย ๆ ก็สามารถทำให้เราเก่งภาษาไปอีกขั้น  ทำให้เราไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากสภาสังคมตอนนี้  เพราะตอนนี้ประเทศกำลังพัฒนา  ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป  เราต้องเอาตัวรอดให้ได้ท่ามกลางทุกสิ่งที่จะเปลี่ยนไป
                จากเคล็ดลับวิธีพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษ  ดิฉันได้นำไปใช้โดยการอ่านบทความ  และเมื่อเจอคำศัพท์ที่ไม่รู้ก็หาความหมายของศัพท์  และหาคำศัพท์ความหมายที่คล้าย ๆ กัน  และหาคำตรงข้าม  ซึ่งทำให้ดิฉันรู้ความหมายของคำศัพท์เยอะขึ้น  ได้พัฒนาขึ้นแต่ไม่มาก  แต่ก็ได้พัฒนาทีละนิดทีละน้อย  แต่ดิฉันก็คิดว่าจะทำไปเรื่อย ๆ ถึงจะไม่เก่งก็สามารถทำให้ดิฉันมีความรู้เพิ่มได้  เพราะคำศัพท์ที่เราหาเองนั้นมันทำให้เราสามารถจดจำได้นาน  และสามารถนำไปใช้บ่อย ๆ เราก็จำได้เอง  ดิฉันจะลองทำและพัฒนาไปเรื่อยๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น